วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ปิดเทอม ว่างแล้วค่าา..

: ‘It is more blessed to give than to receive.’ ”

อ่านแล้วน้ำตาซึม
👩‍❤️‍👩🤢😢😢🛐📓
นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในยุโรปเดินคุยกับอาจารย์ พวกเขาเห็นรองเท้าเก่าๆคู่หนึ่งข้างถนนซึ่งเป็นของชายยากจนที่กำลังทำงานอีกฟากถนน....
เขาหันไปหาอาจารย์พูดว่า เรามาเล่นสนุกกันหน่อย ลองซ่อนรองเท้าและแอบดูปฏิกิริยาตอนเขาไม่พบรองเท้าว่าเป็นอย่างไร ???
อาจารย์พูดว่า เราไม่ควรหาความเพลิดเพลินกับคนยากจนเลย (We should never amuse ourselves at the expense of the poor.) เอาแบบนี้นะ เธอมาจากครอบครัวที่ร่ำรวย เอาเงินใส่ลงไปในรองเท้าของเขาทั้งสองข้างแล้วแอบดูว่าเขาจะทำอย่างไร??
นักศึกษาทำตาม ในที่สุดเขาเห็นชายคนหนึ่งมาที่รองเท้าหลังจากทำงานเสร็จ... ตอนใส่รองเท้าข้างซ้ายเขารู้สึกว่ามีบ่างอย่างในนั้น เขาพบว่ามีเงิน และก็พบเช่นกันในรองเท้าข้างขวา...
เขาแปลกใจ มองไปรอบๆว่ามีใครแถวนั้น สักครู่เขาก็เอาเงินใส่กระเป๋า
เขาคุกเข่าลงเงยหน้าขึ้นฟ้าและพูดว่า ขอบคุณพระเจ้าจริงๆ ....
ภรรยาผมป่วย ลูกๆก็ไม่มีอะไรจะกิน ไม่ว่าเงินนี้จะเป็นของใคร ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือครั้งนี้ นักศึกษาคนนั้นน้ำตาเอ่อเมื่อได้ฟัง อาจารย์พูดสอนว่า
แบบนี้เธอไม่สุขใจมากว่าซ่อนรองเท้าเขาหรือ??
นักศึกษาตอบว่า วันนี้อาจารย์ให้บทเรียนที่มีค่ามากกับผมซึ่งผมจะไม่ลืมเลย
"อย่ากดขี่ข่มเหงคนยากจน เขาลำบากอยู่แล้ว เคารพเขาเท่าเทียมกัน ช่วยกันและกัน เขาพูดว่า It is more blessed to give than to receive. คนเราจะยากดีมีจนก็คนเหมือนกันครับ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี อย่าทำตนเหมือนว่าดีกว่าเหนือกว่ากันเลยครับ หันมาช่วยกันมีความสุขใจมากกว่ากันมากจริงๆอย่ากดขี่ข่มเหงคนยากจน เขาลำบากอยู่แล้ว เคารพเขาเท่าเทียมกัน ช่วยกันและกัน"
เขาพูดว่า " It is more blessed to give than to receive. คนเราจะยากดีมีจนก็คนเหมือนกันครับ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี อย่าทำตนเหมือนว่าดีกว่าเหนือกว่ากันเลยครับ หันมาช่วยกันมีความสุขใจมากกว่ากันมากจริงๆ"
🛐📓

ขายลูกสุนัข....Puppies for Sale (Understanding)


เจ้าของร้านแห่งหนึ่งได้วางป้ายไว้เหนือประตูว่า "Puppies For Sale" มีลูกสุนัขขา
ป้ายแบบนี้มักจะเป็นวิธีการดึงดูดเด็ก ๆ ได้ดีมาก และทันใดก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งเห็นป้ายนี้และเดินเข้าหาเจ้าของร้าน หนูน้อยถามว่า "คุณขายลูกสุนัขราคาเท่าไหร่เหรอครับ?" 
เจ้าของร้านตอบ "ก็ประมาณ 30 ถึง 50 เหรียญ"

เด็กน้อยล้วงมือมาจากกระเป๋าเสื้อ "ฉันมีเงิน 2.37 เหรียญ" เขากล่าว "ขอดูพวกมันหน่อยได้หรือไม่ครับ?"

เจ้าของร้านยิ้มและผิวปาก... สักครู่ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากโรงเก็บสัตว์ เธอเดินลงมาตามทางเดินโดยมีลูกสุนัขเล็ก ๆ ขนฟู ห้าตัววิ่งตามเธอมา รั้งท้ายด้วยลูกสุนัขตัวหนึ่งซึ่งคลานกระเผลกๆลากขา ตามมาข้างหลังสุด! ทันทีที่เด็กชายเห็นมัน เขาก็รีบถามว่า "มีอะไรผิดปกติกับสุนัขตัวนี้เหรอครับ?"

เจ้าของร้านอธิบายว่าสัตวแพทย์ได้ตรวจดูลูกสุนัขตัวน้อยนี้แล้วและได้พบว่ามันไม่มีโพรงกระดูกสะโพก ส่วนใหญ่ ถ้าตัวไหนมีปัญหานี้พวกมันก็มักจะเป็นง่อย
เด็กชายตัวน้อยรู้สึกตื่นเต้น "นั่นคือลูกสุนัขที่ผมต้องการจะซื้อ"
เจ้าของร้านบอกว่า "ไม่นะ..หนูไม่จำเป็นต้องซื้อสุนัขตัวนั้นหรอก ถ้าหนูต้องการมันจริงๆฉันจะให้หนูฟรี"
เด็กชายรู้สึกไม่พอใจ เขามองตรงเข้าไปในตาเจ้าของร้าน ชี้นิ้วและพูดว่า:
"ผมไม่ต้องการให้คุณมาให้ผมฟรี สุนัขตัวนั้นมีค่าเท่ากับลูกสุนัขตัวอื่น ๆเหมือนกัน ฟังนะครับ..ผมจะจ่ายเงินเต็มจำนวน ผมจะให้คุณ 2.37 เหรียญเดี๋ยวนี้ และผ่อนชำระให้คุณ เดือนละ 50 เซ็นต์จนครบนะครับ
เจ้าของร้านตอบว่า "หนูไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าสุนัขตัวนี้จริงๆ มันจะไม่สามารถวิ่งและกระโดดเล่นกับหนูเหมือนลูกสุนัขพันธุ์อื่น ๆ ได้นะ เข้าใจไหม"

เด็กชายก้มลงไปดึงขากางเกงขึ้นเพื่อให้ดูว่า...เขามีขาซ้ายที่..งอขาพิการโดยมีขาเหล็กเทียมเสริมอยู่..เขาเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของร้านและตอบเบา ๆ ว่า "ผมก็ไม่สามารถวิ่งได้เหมือนกันครับ ลูกสุนัขตัวนั้น คงต้องการคนที่เข้าใจมัน!"

Back to /กลับไปยัง

เรื่องสั้น สร้างแรงบันดาลใจ 10 เรื่อง 
แปลให้อ่าน (รับรอง อ่านแล้วซึมแน่ๆ)
Summary of the 10 Best Inspirational Stories
A shop owner placed a sign above his door that said: “Puppies For Sale.”
Signs like this always have a way of attracting young children, and to no surprise, a boy saw the sign and approached the owner; “How much are you going to sell the puppies for?” he asked.
The store owner replied, “Anywhere from $30 to $50.”
The little boy pulled out some change from his pocket. “I have $2.37,” he said. “Can I please look at them?”
The shop owner smiled and whistled. Out of the kennel came Lady, who ran down the aisle of his shop followed by five teeny, tiny balls of fur. One puppy was lagging considerably behind. Immediately the little boy singled out the lagging, limping puppy and said, “What’s wrong with that little dog?”

สาวตาบอด..The Blind Girl (Change)




สาวตาบอดคนหนึ่ง เธอเกลียดตัวเองเพราะเธอเป็นคนตาบอด คนเดียวที่เธอไม่เคยเกลียดเลยก็คือแฟนที่รักของเธอเพราะเขาอยู่กับเธอเสมอ เธอบอกว่าถ้าเธอสามารถมองเห็นโลกได้เธอจะแต่งงานกับเขา


อยู่มาวันหนึ่งมีคนมอบดวงตาให้กับเธอ ตอนนี้เธอสามารถเห็นทุกอย่างรวมถึงแฟนหนุ่มของเธอด้วย แฟนของเธอจึงถามเธอว่า "ตอนนี้คุณสามารถมองเห็นโลกได้แล้วคุณจะแต่งงานกับผมหรือไม่?"


หญิงสาวงตกใจเมื่อเห็นว่าแฟนหนุ่มตาบอดเธอจึงไม่ยอมแต่งงานกับเขา แฟนหนุ่มของเธอเดินออกไปด้วยน้ำตานองหน้า...และต่อมาเขาก็เขียนจดหมายถึงเธอว่า:
"เอาใจใส่ดูแลดวงตาของฉันด้วยนะที่รัก"

↔↔↔↔↔↔↔↔

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : เมื่อสถานการณ์ของเราเปลี่ยนไปจิตใจของเราก็เปลี่ยนไปเช่นกัน บางคนอาจไม่สามารถจินตนาการเห็นสิ่งต่างๆได้ก่อนที่จะเห็นจริง ! และเมื่อเห็นความจริงก็อาจไม่สามารถยอมรับความจริงได้ มีหลายเรื่องราวที่เราจะเรียนรู้ได้จากเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ตัวอย่างเดียว !

Back to /กลับไปยัง

เรื่องสั้น สร้างแรงบันดาลใจ 10 เรื่อง 
แปลให้อ่าน (รับรอง อ่านแล้วซึมแน่ๆ)
Summary of the 10 Best Inspirational Stories
↔↔↔↔↔↔↔↔↔↔↔↔↔↔↔↔

There was a blind girl who hated herself purely for the fact she was blind. The only person she didn’t hate was her loving boyfriend, as he was always there for her. She said that if she could only see the world, she would marry him.

One day, someone donated a pair of eyes to her – now she could see everything, including her boyfriend. Her boyfriend asked her, “now that you can see the world, will you marry me?”
The girl was shocked when she saw that her boyfriend was blind too, and refused to marry him. Her boyfriend walked away in tears, and later wrote a letter to her saying:

ผีเสื้อกับการต่อสู้... The Butterfly (Struggles)


ชายคนหนึ่งพบรังไหมของผีเสื้อรังหนึ่ง วันหนึ่งเขาเห็นรังไหมมีการเปิดอ้าเป็นช่องเล็ก ๆ เขานั่งและเฝ้าดูผีเสื้อ
ตัวเล็ก ๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมง ในขณะที่มันพยายามดิ้นรนเอาร่างกายผ่านรูเล็ก ๆ นั้นออกมา จนกระทั่งจู่ ๆมันก็หยุดดิ้น และดูเหมือนว่ามันจะติดอยู่
ดังนั้นขายหนุ่มจึงตัดสินใจที่จะช่วยผีเสื้อ เขาหยิบกรรไกรและกรีดเอาเศษที่เหลือของรังเปิดออกผีเสื้อก็โผล่ออกมาได้ง่ายแม้ว่ามันจะมีร่างบวมและปีกเล็กหด

เนย หนึ่งปอนด์......A Pound of Butter (Honesty)



มีชาวไร่เกษตรกรผู้ขายเนย หนัก หนึ่งปอนด์ให้พ่อค้าขนมปังทุกวัน วันหนึ่งพ่อค้าขนมปังตัดสินใจที่จะชั่งเนยเพื่อดูว่าเขาได้รับเนยปริมาณที่เหมาะสมหรือไม่ พอน้ำหนักเนย ไม่ได้ตามที่คาดหวัง เขาจึงโกรธมาก และพาชาวไร่ไปที่ศาล
ผู้พิพากษาถามเกษตรกรว่าเขาได้ใช้มาตรการใดในการชั่งน้ำหนักเนยหรือไม่ ชาวนาตอบว่า "ท่านผู้พิพากษาครับ ผมเป็นคนบ้านนอก ผมไม่มีมาตรการที่เหมาะสมหรอกครับ แต่ก็มีวิธีชั่งครับ "
ผู้พิพากษาถามว่า "แล้วคุณชั่งเนยอย่างไร?"

เกษตรกรตอบว่า: 
ด้วยความเคารพท่านผู้พิพากษา"เมื่อไม่นานมานี้ พ่อค้าขนมปังเริ่มซื้อเนยแข็งจากผมผมก็ได้ซื้อขนมปังหนึ่งแถวจากพ่อค้าขนมปังทุกวันเช่นกัน....เมื่อพ่อค้าขนมปังนำขนมปังมาให้ ผมก็เอาขนมปังมาวางบนเครื่องชั่ง(สองแขน)ด้านหนึ่งและผมก็เอาเนยวางอีกข้างหนึ่ง..ให้น้ำหนักเท่ากัน.. ถ้าจะมีการไม่ซื่อตรงท่านก็คงต้องถามพ่อค้าขนมปังแล้วล่ะครับท่าน"
↔↔↔↔↔↔↔↔
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า: ในชีวิตของคนเรา คุณควรจะได้รับในสิ่งที่คุณสมควรจะได้รับ ฉะนั้นจึง อย่าพยายามโกงคนอื่น ๆ
 

Back to /กลับไปยัง
เรื่องสั้น สร้างแรงบันดาลใจ 10 เรื่อง 
แปลให้อ่าน (รับรอง อ่านแล้วซึมแน่ๆ)
Summary of the 10 Best Inspirational Stories
↔↔↔↔↔↔↔↔↔↔↔↔↔↔↔↔
There was a farmer who sold a pound of butter to a baker. One day the baker decided to weigh the butter to see if he was getting the right amount, which he wasn’t. Angry about this, he took the farmer to court.
The judge asked the farmer if he was using any measure to weight the butter. The farmer replied, “Honor, I am primitive. I don’t have a proper measure, but I do have a scale.”

กบฝูงหนึ่ง...The Group of Frogs (Encouragement)



ขณะที่กบฝูงหนึ่งกำลังเดินทางผ่านป่า ทันใด..ก็มีกบสองตัวตกลงไปในหลุมลึก เมื่อกบตัวอื่น ๆ เห็นเข้าก็พากันกระโดดไปมุง แออัดรอบหลุมและเห็นว่ามันลึกมากแค่ไหน...พวกมันบอกกันว่ากบทั้งสองตัวนั้นไม่มีความหวังอะไรเลย ตายลูกเดียว..!
อย่างไรก็ตาม..กบทั้งสองตัดสินใจที่จะไม่สนใจสิ่งที่ตัวอื่นพูดและมันทั้งสองก็พยายามที่จะกระโดดออกจากหลุม กลุ่มกบที่อยู่ด้านบนของหลุมยังคงบอกว่า...พวกมันควรจะยอมแพ้ มันไม่มีทางกระโดดออกมาได้หรอก!

ในที่สุดหนึ่งในสองกบ..ที่ตกลงไปก็เริ่มฟังเสียงกบตัวอื่นๆ กำลังพูดอยู่...และมันก็ยอมแพ้และในที่สุดก็หยุดกระโดดและตายไปต่อหน้าต่อตาเพื่อนและกบอื่นๆ
ส่วนกบอีกตัวยังคงกระโดดอย่างหนักที่สุดเท่าที่จะทำได้ เจ้าฝูงกบ ปากหมา เอ๊ย...ปากหลุม  ก็ยังคงตะโกนใส่มันเพื่อหยุดความเจ็บปวดและยอมตายไปซะดีกว่า!!
แต่เจ้ากบน้อยยังคงกระโดดขึ้นและหนักขึ้น สูงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้มันสามารถออกมาจากหลุมได้ ! เมื่อมันออกมากบตัวหนึ่งก็ถามว่า "แกไม่ได้ยิน ที่พวกเราตะโกนบอกเหรอ?"มันตอบว่า " ข้าเป็นกบหูหนวก ข้าคิดว่าพวกแกตะโกนให้กำลังใจ"
↔↔↔↔↔↔↔↔↔↔
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า: คำพูดของคนอาจมีผลต่อชีวิตของคนอื่นมากมาย ฉะนั้นจงคิดก่อนที่คุณจะพูดมันออกมาเพราะสิ่งที่ออกจากกปากของคุณ มันอาจจะหมายถึงความเป็นความตายของชีวิตคนอื่นทีเดียว!!
↔↔↔↔↔↔↔↔↔↔

Back to /กลับไปยัง

เรื่องสั้น สร้างแรงบันดาลใจ 10 เรื่อง 
แปลให้อ่าน (รับรอง อ่านแล้วซึมแน่ๆ)
Summary of the 10 Best Inspirational Stories
As a group of frogs were traveling through the woods, two of them fell into a deep pit. When the other frogs crowded around the pit and saw how deep it was, they told the two frogs that they’re was no hope left for them.
However, the two frogs decided to ignore what the others were saying and they proceeded to try and jump out of the pit. Despite their efforts, the group of frogs at the top of he pit were still saying that they should just give up. That they would never make it out.

คิดนอกกรอบ...Thinking Out of the Box (Creative Thinking)


ในเมืองเล็กๆ ในประเทศอิตาลี หลายร้อยปีมาแล้ว, มีเจ้าของธุรกิจเล็กๆ คนหนึ่ง เป็นหนี้เจ้าหนี้นอกระบบเป็นจำนวนเงินก้อนโต ส่วนเจ้าหนี้ที่แก่มาก หน้าตาน่าเกลียด ก็แอบชอบลูกสาวของลูกหนี้

วันหนึ่ง ตาแก่เจ้าหนี้เลยวางแผนจะขอแต่งงานกับสาวสวยดังกล่าว โดยการเสนอเงื่อนไขกับผู้เป็นพ่อของเธอว่า เขาจะยกหนี้ให้ทั้งหมด ถ้า อนุญาตให้เขาแต่งงานกับเธอ ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่ามันเป็นข้อตกลงที่น่ารังเกียจไม่น้อย

ตาแก่เจ้าเล่ห์กล่าวว่า เขาจะเอาก้อนหินสองก้อนใส่ในถุง ก้อนหนึ่งสีดำ ก้อนหนึ่งสีขาว
แล้วให้หญิงสาวล้วงมือหยิบขึ้นมา หนึ่งก้อน ถ้าได้สีดำ หนี้จะถูกลบล้างหมด และเธอต้องแต่งงานกับเขา แต่ถ้าหากเธอเลือกได้สีขาว หนี้จะถูกลบล้างหมดเหมือนกัน แต่เธอไม่จำเป็นต้องแต่งงานกับเขา



เมื่อเข้าใจเงื่อนไขกันดีแล้ว ตาแก่ซึ่งยืนอยู่บนทางเดินที่มีกรวดเต็มไปหมดในสวนของลูกหนี้ 
ทันใดนั้นเขาก็ก้มลงหยิบก้อนกรวดสองก้อนใส่ในถุง ซึ่งบังเอิญหญิงสาวที่คอยสังเกตอยู่แล้ว เธอจึงเห็นเขาหยิบก้อนกรวดสีดำทั้งสองก้อนใส่ในถุง จากนั้นตาแก่เจ้าเล่หฺก็ยื่นถุงมาให้เธอหยิบก้อนกรวดออกมาหนึ่งก้อน
ซึ่งแน่นอน หญิงสาวมีทางเลือกสามทางคือ
1. ปฏิเสธที่จะหยิบก้อนกรวด
2. หยิบขึ้นมาทั้งสองก้อนและประจานความขี้โกงของตาแก่เจ้าหนี้
3. หยิบขึ้นมา หนึ่งก้อนทั้งๆ ที่รู้ว่ายังไงก็ต้องเป็นสีดำ และยอมเสียสละแต่งงานกับตาแก่เพื่อตอบแทนบุญคุณล้างหนี้ให้พ่อ

เธอรับถุงมาและล้วงมือไปหยิบก้อนกรวดหนึ่งก้อนและแกล้งทำมันตกลงที่พื้น ปนไปกับก้อนกรวดอื่นๆ  โดยยังไม่มองดู พร้อมกับกล่าวว่า  "ตายละ ชั้นนี่มันซุ่มซ่ามจริง ๆ ทำมันตกไปแล้ว ไม่รู้สีอะไร ท่านดูที่เหลือในถุงก็แล้วกันนะคะ เราก็จะได้คำตอบว่าชั้นหยิบได้สีอะไร"ซึ่งแน่นอน กรวดก้อนที่เหลือในถุงก็ต้องเป็นสีดำ ตาเฒ่าเจ้าหนี้เลยจำใจเล่นไปตามบท เหมือนว่าเธอหยิบได้ก้อนสีขาว ในที่สุดเขาก็ต้องยกหนี้ให้พ่อของสาวสวยแสนฉลาดและมีสติคนนี้อย่างไม่กล้าบิดพลิ้ว!
↔↔↔↔↔↔↔↔
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า: ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น คนเราก็สามารถเอาชนะสถานการณ์ที่ยากลำบากได้โดย การคิดนอกกรอบ เช่นเหตุการณ์นี้ เราไม่จำเป็นต้องคิดแต่ว่า จะต้องหยิบก้อนหิน ออกมา หนึ่งก้อน เท่านั้น!!
หมายเหตุ:การคิดนอกกรอบ หมายถึง การคิดอย่างแตกต่าง อย่างไม่เป็นไปตามแบบแผน หรือการคิดเพื่อสร้างมุมมองใหม่ ๆ ไม่จำกัดความคิด ความรู้ หรือความคิดเห็น วลีนี้มักจะหมายถึงการคิดที่แปลกใหม่หรือสร้างสรรค์

↔↔↔↔↔↔↔↔↔↔↔↔↔↔

Back to /กลับไปยัง

เรื่องสั้น สร้างแรงบันดาลใจ 10 เรื่อง 
แปลให้อ่าน (รับรอง อ่านแล้วซึมแน่ๆ)
Summary of the 10 Best Inspirational Stories

In a small Italian town, hundreds of years ago, a small business owner owed a large sum of money to a loan-shark. The loan-shark was a very old, unattractive looking guy that just so happened to fancy the business owner’s daughter.
He decided to offer the businessman a deal that would completely wipe out the debt he owed him. However, the catch was that we would only wipe out the debt if he could marry the businessman’s daughter. Needless to say, this proposal was met with a look of disgust.

ช้างกับเชือกเส้นนั้น...The Elephant Rope (Belief)

ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินผ่านแค้มป์ช้างและสังเกตเห็นว่าช้างไม่ได้ถูกกักขังอยู่ในกรงหรือล่ามโซ่ไว้ สิ่งที่ป้องกันการหลบหนีของช้างมีเพียงเชือกเส้นเล็กๆ สั้นๆ ผูกติดอยู่กับขาข้างหนึ่งของพวกมันเท่านั้น
ชายคนนั้นจ้องมองพฤติกรรมของช้าง...เขาก็ยิ่งสับสนว่าทำไมช้างไม่ใช้กำลังที่มีเยอะแยะกระชากดึงเชือกให้ขาดหรือหลุดและหนีออกจากแค้มป์ พวกมันสามารถทำได้อย่างง่ายดาย แต่พวกมันก็ไม่ได้พยายามทำอะไรเลย

ด้วยความอยากรู้อยากเห็นและต้องการทราบคำตอบเขาจึงถามครูฝึกที่อยู่ใกล้ ๆ ว่าทำไมช้างถึงยืนอยู่กับที่และไม่เคยพยายามหลบหนีเลย
ครูฝึกตอบ;
"เมื่อพวกมันยังอายุน้อยๆ เป็นช้างในวัยเยาว์เราได้ใช้เชือกขนาดเดียวกันนี้เพื่อล่ามพวกมันไว้ซึ่งในตอนนั้นเชือกนี้ก็สามารถดึงมันไว้อยู่ แน่นอนมันเคยพยายามดึงแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะมันยังเป็นเด็กไม่มีกำลังพอ การเรียนรู้นี้มันเหมือนเป็นการยื่นเงื่อนไขให้กับสมองมันว่า ตราบใดที่ยังมีเจ้าเชือกนี้ มันก็ไม่มีทางหลุดไปไหนได้!!และไม่ว่ามันจะโตมากขึ้นจนถึงอายุเท่าไหร่ก็ตามมันก็ยังมีความเชื่อว่าพวกมันจะไม่สามารถหลุดไปได้ พวกมันเชื่อว่าเชือกยังสามารถยึดครองพวกมันได้อยู่..ดังนั้นพวกมันจึงไม่เคยพยายามที่จะดึงรั้งหนีไปไหน..เหตุผลเดียวที่ช้างไม่ได้เป็นอิสระและหนีออกมาจากแค้มป์ก็เพราะเมื่อเวลาผ่านไปพวกมันก็ยอมรับความเชื่อว่ามันเป็นไปไม่ได้ !!
↔↔↔↔↔↔↔↔↔↔
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า: ไม่ว่าโลกจะพยายามดึงคุณไว้เพียงใดก็ตาม...อย่าลืมเชื่อเสมอว่าสิ่งที่คุณต้องการจะทำ มันเป็นไปได้เสมอ! ความเชื่อว่าคุณจะประสบความสำเร็จเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการพยายามทำให้บรรลุเป้าหมาย
Back to /กลับไปยัง
แปลให้อ่าน (รับรอง อ่านแล้วซึมแน่ๆ)
Summary of the 10 Best Inspirational Stories
↔↔↔↔↔↔↔↔↔↔
A gentleman was walking through an elephant camp, and he spotted that the elephants weren’t being kept in cages or held by the use of chains. All that was holding them back from escaping the camp, was a small piece of rope tied to one of their legs.
As the man gazed upon the elephants, he was completely confused as to why the elephants didn’t just use their strength to break the rope and escape the camp. They could easily have done so, but instead, they didn’t try to at all.

เส้นทางอุปสรรค... The Obstacle In Our Path (Opportunity)



ควบคุมอารมณ์ซะมั่ง...Control Your Temper (Anger)

There once was a little boy who had a very bad temper. His father decided to hand him a bag of nails and said that every time the boy lost his temper, he had to hammer a nail into the fence.
On the first day, the boy hammered 37 nails into that fence. The boy gradually began to control his temper over the next few weeks, and number of nails he was hammering into the fence slowly decreased. He discovered it was easier to control his temper than to hammer those nails into the fence.

จูบเต็มกล่องด้วยรัก...Box Full of Kisses (Love)


นานมาแล้วมีชายคนหนึ่งลงโทษลูกสาววัย 3 ขวบที่เธอทำให้ม้วนกระดาษห่อของขวัญสีทองหมดไปเป็นม้วน เพราะเขาไม่ค่อยมีเงินและเขาก็ยิ่งโกรธเมื่อเห็นเด็กหญิงพยายามที่จะตกแต่งกล่องของขวัญเพื่อจะใส่ไว้ภายใต้ต้นคริสต์มาส
แต่อย่างไรก็ตาม...เด็กหญิงก็อุตส่าห์นำของขวัญมาให้พ่อในเช้าวันรุ่งขึ้นและกล่าวว่า "นี่สำหรับพ่อค่ะ"